เริ่มกันที่ อันดับ 10 กาบริเอล บาติสตูตา นักฟุตบอลชาวอาเจนติน่า เป็นอดีตตำนานของสโมสรม่วงมหาการฟิออเรนติน่า ด้วยรูปร่างและการเล่นที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยมีทักษะลูกกลางอากาศ และการเลี้ยงบอลที่เป็นเลิศ ประกอบกับการมีลูกยิงที่หนักหน่วง เฉียบขาดและรุนแรง ทำให้เค้าเป็นขวัญใจของนักเตะรุ่นหลังมากมาย แถมยังเป็นขวัญใจของแฟนบอลฟิออเรนติน่าและทีมชาติอาเจนติน่าอีกด้วย โดยกาบิโก ลงสนามรับใช้ทีมชาติ อาเจนติน่า ในทัวน้เม้นฟุตบอลโ,กในครั้งสุดท้าย ไปทั้งหมด12 ครั้งแลกสามารถทำประตูไปถึง 10 ประตู

          อันดับที่ 9 แกรี่ ลินิเกอร์ มิสเตอร์ไนท์กาย โดยฉายาของเขาได้มาจากการที่ไม่เคยโดนใบเหลืองซักใบตลอดการค้าแข้ง โดย ลินอเกอร์นั่น ถือเป็นหนึ่งนักเตะที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของประเทศอังกฤษ รองจากชุดแชมป์เวิร์ดคัพ ปี1966 โดยการพาสิงโตคำรามก้าวถึงรอบตัดเชือกฟุตบอลโลกปี1990 แม้จะต้องแพ้ให้กับเยอรมันตะวันตก ก่อนมาจบอันดับ 4 ในที่สุด โยตลอดกาลรับใช้ทีมชาติอังกฤษนั่น เขาลงเล่นไปกว่า 80 นัดและทำไปกว่า 40 ประตู ครองอันดับดาวซัลโวอันดับที่ 3 บนชาจดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติอังกฤษ โดยในทัวนาเม้นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ลินิเกอร์ลงรับใช้ทีมชาติอังกฤษไปทั้งหมด 12 นัดและยิงไปถึง 10 ประตู

         อันดับ 8 เฮ็ลมูท ราห์น ตำนานศูนย์หน้าชาวเยอรมัน ราห์น มีฉายาที่หลายคนรู้จักคือเดอะบอสนั่นเอง ที่ผลิตสกอร์ให้กับทัพอินทรีเหล็กได้เป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะในทัวร์นาเมนต์ปี 1954 ที่เขานั่นเป็นคนยิงประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศให้เยอรมันตะวันตกเอาชนะ ฮํงเกอร์รี่ ไป 3 ประตูต่อ2  โดยถึงแม้เฮ็ลมูท ราห์น เสียชีวิตไปแล้วในวันที่14 สิงหาคม 2546  แต่ว่าด้วยผลงานที่เขาทำในฟุตบอลโลกสุดท้ายกับการลงสนามให้กับทีมชาติเยอรมัน 10 นัด ทำไปได้ถึง 10 ประตู ทำให้ตำนานนี้มันยังคงตราตรึงใจให้กับแฟนฟุตบอลเยอรมันมาจนถึงทุกวันนี้

          อันดับที่ 7 เยอร์เกิน คลีนส์มัน อีกหนึ่งตำนานศูนย์หน้า ดาวยิงชาวเยอรมันเจ้าของฉายา ฉลามขาว โดย คลีนส์มันนั่นเป็นตำนานของบาร์เยอนมิวนิค และทีมชาติเยอรมัน ซึ่งเป็นแกนหลักในการพาทีมชาติเยอรมันตะวันตกคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1990 รวมถึงแชมป์ยูดรปี 96 อีกด้วย และหลังจากที่เจ้าตัวประกาศแขวนสตั๊ดก็ผันตัวมาเป็นผู้จัดการทีมและพาทีมชาติเยอรมันคว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลกปี 2006 ซึ่งผลงานการผลิต สกอร์ให้กับทัพอินทรีเหล็กในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายนั่น ก็ทำให้แฟนบอลเยอรมันหลายคนตราตรึงใจไม่น้อยด้วยการลงสนามรับใช้อินทรีเหล็กทั้งหมด 17 นัดและยิงไปถึง 11 ประตู

            อันดับที่ 6 ซานดอร์ โคชิส ตำนานศูนย์หน้าชาวฮังการีและเป็นตำนานของทัพบาเซลโลน่าในช่วงปี1950-1960 ถือเป็นยุคทองของวงการฟุตบอลของฮังการี ที่มีตำนานนักเตะหลายคนนั่นขึ้นมาเฉิดฉาย ซานดอร์ โคซิสก็เป็นอีกหนึ่งตำนานที่แฟนบอลชาวฮํงการีจดจำและสร้างผลงานที่ตราตรึงใจ ความสุดยอดของเขาคือกาผลิตสกอร์ให้กับฮังการี ด้วยการลงสนามรับใช้ทีมชาติฮังการีในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายไปทั้งหมด 5 นัด แต่เขาสามารถทำสกอร์ให้ฮังการีได้ถึง 11 ประตู  

           อันดับที่ 5 เปเล่ นักเตะชาว บราซิล ในเรื่องฝีเท้าในสนามคงไม่ต้องมีใครพูดถึง เพราะเค้าถือว่าเขาเป็นสุดยอดตำนานดาวยิงของทีมชาติ บราซิลโดยเปเล่ลงสนามรับใช้ทีมชาติบราซิลตั้งแต่ปี 1956-1971 โดยในฟุตบอลโลกปี 1959 ขณะที่เค้าอายุเพียง 17 ปี เปเล่เป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดในโลกที่สามารถทำประตูได้ในนัดที่ลงสนามเจอกับทีมชาติเวล รวมถึงนัดชิงชนะเลิศเจอกับสวีเดนที่เมืองกัวเตนเบริกอีกด้วย โดยในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่เปเล่ลงสนามรับใช้ชาติบราซิลไปทังหมด14นัด และทำไปตูไปได้ถึง 12 ประตู

          อันดับ 4 ฌุสต์ ฟงแตน อดีตตำนานชาวฝรั่งเศสที่เปเล่นั่นเคยยกย่องให้เขาเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ 125 คนที่งานประกาศรางวัลยูฟ่า โดยถึงแม้งฟงแตนจะแขวนสตั๊ดไปแล้วแต่ควยามเป็นตำนานก็ยังทำให้เค้าอยู่บนสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลในเวทีฟุตบอลโลก ด้วยการลงสนามรับใช้ทีมชาติตราไก่ไปทั้งหมด 6 นัดและผลิตสกอร์ให้กับตราไก่ไปทั้งหมด 13 ประตู

          อันดับที่ 3 แกร์ท มึลเลอร์ ตำนานศูนย์หน้าดาวยิงชาวเยอรมันอดีตนักเตะของทีมชาติเยอรมันและทัพเสือใต้บาเยินมิวนิค หลายคนเคยได้ยินชื่อแกร์ท มึลเลอร์ในเกือบทุกสถิติของวงการฟุตบอล เพราะนักเตะคนนี้นั่นถือเป็นอีกหนึ่งโคตรตำนานก็ว่าได้ นอกจากผลงานที่พาอินทร์ทรีเหล็กเยอรมันคว้าแชมปืฟุตบอลโลกในปี 1674 ยังมีรางวัลการถล่มประตูสำหรับดาวซัลโวมุลเดลลีก้าและดาวซัลโวของทวีปยุโรป17สมัยและนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของเยอรมันอีก2สมัยในปี 1967และ1969 เขายังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บาเยยรินมิวนิคนั่นคว้าแชมป์ ยูเลฟ่าแชมปืเปี้ยนลีก 3ปีซ้อนในปี1674/1975และ1976 แกร์ท มึลเลอร์ลงสนามเวทีฟุตบอลโลกให้กับอินทรีเหล็กเยอรมันไปทั้งหมด 13 นัดทำประตูไปได้ 14ประตู

            อันดับ 2 โรนัลโด หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อโรนัลโด R9 ทีมใหญ่มากมายต่างให้การยอมรับว่านักเตะคนนี้มีฝีเท้าที่สุดยอด ดั้งนั่นเรื่องฝีเท้าขอโรนัลโดR9 เราไม่ต้องพูถึง โยในปี2002โรนัลโดนั่นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมชาติบราซิลสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี2002 ในแผ่นดินแดนปลายดิบของญี่ปุ่นได้สำเร็จ ทำให้ปี 2002 เป็นยุครุ่งเรื่องอย่างมากของทีมชาติบราวิล โดยฟุตบอลรอบสุดท้ายนั่นโรนัลโดก็ทำไปได้ถึง 15 ประตูจากการลงรับใช้ทีมชาติบราซิลไป 19 นัด

            อันดับที่ 1 มีโรสลัฟ โคลเซอ ตำนานศูนยย์หน้าดาวยิงของเยอรมันด้วย,กกลางอากาสที่ถือเป็นจุดแข็งของเขาร่วมถึงการทำประตูที่เฉียบคมประกอยกับการที่สัญชาตญานการจบสกอร์ที่แม่นยำ ทำให้การลงสนามรับใช้อินทรีเหล็กของ มีโรสลัฟ โคลเซอ 24 นัดทำประตูไปได้ 16 ประตูเป็นอันดับหนึ่งดาวซัลโวในทัวนาเม้นฟุตบอลโลก โดยใยนฟุตบอลโลก2014 โคลเซอก็ทำไปได้ 2 ประตูและเป๋นส่วนสำคัญที่ทำให้อินทรีแหล็กเยอรมันคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปีนั่นมาครอง ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถทำลายสถิติ 16 ประตูของเขาได้เลย ดังนั่นต้องรอดูกันว่าในศึกฟุตบอลโลกปี 2022 นี้จะมีนักเตะคนไหนขึ้นมาท้ายทายสถิติของเขาได้หรือไม่