ครึ่งหลังกลับมาใส่กันสนุกมาก เป็นบอลระมัดระวัง นาที่ที่ 50 ลิเวอร์พูลต้องได้แล้ว ซาลาห์ หลุดไปดวล แล้วได้ยิง แค่ปลายนิ้วของ เอแดร์สัน เปลี่ยนองศาบอลออกหลังไป แต่มันไปเพิ่มองศาเกม ลิเวอร์พูลกระชับพื้นที่ เพราะก็กลัวโดนสวนกลับเช่นกัน ซิตี้ตอบโต้ด้วยเกมบุกดุดัน นาทีที่ 53 แมนฯซิตี้ ยิงได้ จากจังหวะที่ ฟิล โฟเดน ยิงเข้าไป แต่ผู้ตัดสินเซ็กวีเออาร์ย้อนหลัง กลับไปให้ ลิเวอร์พูล ได้ฟาวล์ ตั้งแต่จังหวะที่ เออร์ลิง ฮาลันด์ ไปทำฟาวล์ ฟาบินโญ แล้ว ลิเวอร์พูล ดันเกมขึ้นมาอีกครั้ง โซต้า ได้โหม่งจากบอลของ ซาลห์ ข้ามคาน ช่วงนี้สวนกัน หนึ่งสอง หนึ่งสอง ซิตี้ เกือบนำ ฮาแลนด์ ยิงโอเคแล้ว แต่ เบ็คเกอร์ ดีกว่า

ในนาทีที่ 72 ลิเวอร์พูล ขยับแบบใหญ่หลวง เปลี่ยน ฟีร์มีโน่,ฟาบินโญ,เอลเลียตต์ ออก และส่งนูนเนซ,เฮนเดอร์สัน,คาร์วัลโญ ลงตามตำแหน่ง เหลืออีก15 นาที จะหมดเวลา ตลอดทั้งเกม แนวรับลิเวอร์พูลยังไม่รวน ไม่โดนเร็ว ไม่พลาดจังๆ โจ โกเมซ ละเอียดใช้ได้ ฟาน ไดจ์ก โคตรมั่นใจ คำว่าติด ฟาน ไดจ์ค นี่ได้ยินอย่างบ่อย และระเบียบการเล่นที่ดี ที่แน่น ส่งให้ลิเวอร์พูล ได้ประตูจนได้ เริ่มจาก ฟรีคิก ของซิตี้ ไปเข้ามือ เบ็คเกอร์ ตากล้องสนามยังไม่ทันได้ซูมภาพออก เบ็คเกอร์ โคตรไว

          เปิดบอลยาวมากๆ บอลตกกลางสนาม ซาลาห์ โคตรเหนือ ดูดบอลลงแบบสุดๆ คานเซโล่ เสียเชิงไปเลย อีก2วินาทีคือการดวล ซาลาห์ จัดระเบียบร่างกายแล้ว ล่อเป้า จังหวะนี้เกือบหยุดหายใจ เท้าต้องมีจิกพื้น สำเร็จ มันเป็นสกอร์ ลิเวอร์พูล นำได้แล้ว ในเกมที่โคตรกดดันนี้ เกมยังต้านกันสนุก ซิตี้ ก็ต้องเร่ง แต่เร่งไปเร่งมาก็เกิดอาการกระตุก เพราะเวลาเหลือน้อย มีกระทบกระทั่งในบางจังหวะ มันมีการทำฟาวล์กันหลายครั้ง ผู้ตัดสินบอกว่าให้เล่นต่อไป ระหว่างนี้ นูนเญซ ได้ท้าทาย แต่จิตยังไม่นิ่งพอ ท้ายเกม เขามีการเล่นที่ลนลานเกินไป ต้องการสกอร์เกินไป 2-3 ครั้ง จะๆเลย ซาลาห์โดนอัดแต่ไม่ได้ฟาวล์

    คล็อปป์ปรี้ดแตกไล่เดินทวงความยุติธรรมในจังหวะ เฮฟลี่ เมทั่ล ตุลาการสนาม เลยมอบใบแดงให้ โคตรแพสชั่นของแท้ ของคล็อปป์ เขารักที่นี่จริงๆ เขายังลุ่มหลง หลงใหล ในรสชาติชัยชนะของลิเวอร์พูล เกมยื้อกันไปถึงทดเวลา 6 นาที ทุกกลยุทธถูกงัดมาใช้ ซิตี้ ดันยังไงก็เจาะไม่ได้ จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะไปแบบหายใจไม่ทั่วท้อง ซิตี้ พลาดเป็นครั้งแรก หลักฐานที่เหลือไว้หลังเกมคือ แมนเซสเตอร์ ซิตี้ สามารถแพ้ได้ ฮาแลนด์ สามารถถูกควบคุมไว้ได้ และกำลังใจ สามารถบิลด์ขึ้นมาใหม่ได้ มันส์มั้ยแมทซ์นี้ เชิงบอล คุณภาพใดๆสูสี เล่นกันละเอียดจัด คล็อปป์รัดกุมมาก เขาได้รับคำชมในการวางแท็คติกส์ เขารักทีมจริงๆ ออกแอคชั่น ได้สะใจ กล้าทวง กล้าถามที่จะกลับมาใช้แบบเดิมนั่นคือ 4-4-3 ไลน์อัพเปิดมา แฟนลิเวอร์พูลบ่นอุบ ที่ยังเชื่อมั่น มิลเนอร์ ยังไว้ใจ โจ โกเมซ เพียงแต่ปรับให้มาเล่นกลางแทน แล้ววันนี้ โจ โกแมซ ร่างทอง และวันนี้ทุกคนเล่นได้แบบ “ลิเวอร์พูล” จริงๆ ฟาน ไดจ์ค ก็นิ่งมากๆ มั่นใจมาก ยืนถูกที่ ถูกเวลา สร้างเกมรับที่เชื่อมั่นได้ ติดฟาน ไดจ์ก ติดฟาน ไดจ์ก ติดฟาน ไดจ์ก ฮาแลนด์ ได้โอกาสก็จริง เกมนี้ได้ยิง 6 ครั้ง เข้ากรอบ 4 แต่ระยะยิง การวางเท้าอะไรก็ดูเกร็งๆไปเยอะ มันคือการจับเขาอยู่ในพื้นที่ ที่เล่นได้ยาก ตัดสายพานลำเลียงออกให้มากที่สุด บอลวันนี้ เห็นได้เลยว่า สร้างความหนักใจให้ กวาดิโอลา จริงๆ ผิดฟอร์มไปพอสมควรเลย เพราะ เป้ป แก้เกมได้ไม่ทัน เขาเปลี่ยนตัวเพียง จูเลี่ยน อัลวาเรซ ลงมาเพียงคนเดียว และนั่นไม่ได้สร้างอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้ ซิตี้ ได้ทันกาล เดอ บรอยน์ ก็ฝืดๆพิกล บอลของเขาไม่ค่อยเข้าเป้าเท่าไหร่ พูดได้ในนาทีนีว่า