เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปในฟุตบอลยูโรในปี 2008 ที่ทัวร์นาเม้นต์นั่นเป็นทัวร์นาเม้นต์มาสเตอร์พลีสเบิกโรงของทีมชาติสเปนจริงๆ เพราะสเปนทะลุเข้ามาถึงนัดชิงชนะเลิศชิงกับอินทรีเหล็กเยอรมันและสเปนก็เอาชนะเยอรมันไปได้ในนัดชิงชนะเลิศก่อนขึ้นไปคว้าแชมป์และเถลิงบันลังก์ด้วยถ้วนอองรี เดอ โรเน่ อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งในทัวร์นาเม้นต์ยูโรปี2008นั่นเองดาวซัลโวสูงสุดในทัวร์นาเม้นต์นั่นก็ไม่ใช่คนอื่นไกลคือ ดาบิด ปิย่า ศูนย์หน้าจากเจ้าบุญทุ้ม บาร์เซโลน่าจากทีมชาติสเปนนั่นเอง ซึ่งอีก 2 ปีต่อมาในทัวร์นาเม้นฟุตบอลโลก2010 ที่แอฟริกาใต้ ในปี2010 สเปนก็ไม่ได้ยถูกมองว่าเป็นตัวเต็งจากสื่อ

ในช่วงรอบแบ่งกลุ่มทีมชาติสเปนก็มีผลงานที่ค่อนข้างกระท่อนกระแท่นด้วยในรอบแบ่งกลุ่ม แต่ก็ยังเอาตัวรอดมาได้ถึงนัดชิงชนะเลิศและก็เอาชนะทีมชาติฮอลแลนด์ในรอบชิงชนะเลิศไป 1 ประตู่ต่อ 0 จากลูกฮาล์ฟวอลเลย์สวยๆของ อัลเยส เนียต้า ส่งสเปนไปเถลิงบังลังก์ฟุตบอลโลกสมัยแรกได้สำเร็จ ซึ่งมันถือว่าเป็นคำสาปที่คาบเกี่ยวกันอย่างพอสมควรสำหรับการที่ ดาบิด ปิย่า ได้ดาวซัลโวในย 2008 และสเปนก็มาคว้าแชมป์ในปี 2010 ซึ่งเหตุการณ์ต่อมามันก็ไม่ใกล้ไม่ไกล เพียงอีก 2 ปีถัดมา หลังจากที่สเปนคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2010 เท่านั่นเอง  

          คราวนี้ถึงคิวอินทรีเหล็ก เยอรมันที่จัดอยู่ในกลุ่มกรุ๊ปออฟเดธของยูโรปี 2012 อยู่ร่วมกลุ่มกับทั้งเดนมาร์ก ฮอลแลนด์และโปรตุเกส ถือว่าเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างหินพอสมควร แต่อินทรีเหล็กเยอรมันก็โชว์ผลงานมาสเตอร์พลีส ผ่านกรุ๊ปออฟเดธมาได้อย่างสบายๆ ด้วยการคว้าแชมป์กลุ่มก่อนทะลุเข้ามาถึงรอบ4ทีม ก่อนพ่ายให้กับ อิตาลี 2 ประตูต่อ 1 ด้วยการทำ 2 ประตูของ มารีโอ บาโลเตลลี ซึ่งถึงแม้อินทรีเหล็กเยอมันจะไปไม่ถึงฝั่งฝัน       

สำหรับฟุตบอลยูโรปี 2012 แต่ในทัวร์นาเม้นต์นั่นเองดาวซัลโวก็ยังตกเป็นของ มาริโอ โกแมซ ศุนย์หน้าลากโยกจากทัพอินทรีเหล็ก ซึ่งหลังจากนั่นเพียงอีก 2 ปีก็ถึง ทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลโลกปี 2014 ที่แผ่นดินบราซิล ในปีนั่นอินทรีเหล็กเยอรมันหมายมั่นปั่นมือเป็นอย่างมากในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกให้งได้ และเยอร์มันก็ค่อยๆทำตามแผนที่ตนเองร่างขึ้นมา ด้วยการอัดโปรตุเกสในนัดเปิดสนามไปถึง 4 ประตูต่อ 0 ก่อนจะจบรอบแบ่งกลุ่มด้วยแชมป์กลุ่ม และก็เอาชนะฝรั่งเศสในรอบ 16 ทีมสุดท้าย 1ประตูต่อ 0 ก่อนจะตบแอลจีเรียในช่วงต่อเวลาพิเศษ และมาปราบเจ้าภาพบราซิล 7 ประตูต่อ 1 ในรอบรองชนะเลิศก่อนที่จะมาเถลิงแชมป์ที่มาราคาน่า จากการเอาชนะอาเจนติน่าไป 1 ประตูต่อ 0 จากประตูชัย ของมาริโอ กอตเซ และคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก2014 ไปอย่างยิ่งใหญ่บนแผ่นดิน บราซิล

         หลังจากนั่นเพียงอีก 2 ปีถัดมาฟุตบอลยูโรปี 2016ก็ได้เริ่มขึ้นที่แผ่นดินฝรั่งเศสในทัวร์นาเม้นต์นั่น ทีมชาติฝรั่งเศสก็หมายมั่นปั่นมือเป็นอย่างมากว่าจะสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโรในแผ่นดินของตนเองได้ ต่อยๆตบทีมอื่นเรียงตัวมาจนทะลุมาถึงรอบชิงชนะเลิศที่ชิงกับโปรตุเกส แต่ดันไปพลาดท่าในสตาดเดอฟร็องส์ไป 3ประตูต่อ 1 จากการลงมาเป็นซุปเปอร์ซัปของ เอแดร์ ทำให้ทีมชาติฝรั่งเศสต้องอกหักในการเข้าชิงชนะเลิศอย่างไรก็ตามในทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลยูโรปี 2016 อองตวล คริสมัน ก็สามารถเอาตำแหน่งดาวซัลโวประจำทัวร์นาเม้นต์ให้กับทีมชาติฝรั่งเศสได้สำเร็จ

และหลังจากนั่น 2 ปีในสึกทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลโลกปี 2018 ที่รัสเซียก็ได้เริ่มขึ้น ฝรั่งเศสที่มาในฐานะรองแชมป์ฟุตบอลยูโรปี 2016 ก็หมายมั่นปั่นมือที่จะมาพิสูจน์ตนเองในรายการเมเจอร์ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย และในที่สุดพวกเค้าก็ทำสำเร็จด้วยผลงานมาสเตอร์พรีสเอาชนะทั้งทีมชาติเบลเยี่ยมกับทีมชาติอาเจนติน่าและทีมชาติอุรุกวัยจนทะลุเข้านัดชิงชนะเลิศกับโครเอเซียก่อนจะปราบทีมชาติตารางหมากรุกไป 4 ประตูต่อ 2 ในนัดชิงชนะเลิศและเถลิงแชมป์ฟุตบอลโลกอย่างยิ่งใหญ่ ในแผ่นดินแดนหมีขาวที่รัสเซีย