vmax1689 วันนี้ขอนำเสนอเรื่องราวในแวดวงฟุตบอล ว่าด้วยเรื่องนักเตะชื่อดังอย่าง เนย์มา ร่างใหม่ ผู้ที่กลายเป็นคนดี เฉยเลย สถิติ 7 นัดในลีก ยิงไป 8 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์ ของ เนย์มาร์ ตอนนี้มันคือสถิติที่โคตรดีมาก ๆ เลยแหละ ในการที่เขามีส่วนร่วมกับทีม ถ้าหากท่านชอบบทความดี ๆ แบบนี้อย่างลืมแอดไลน์ไปที่ @vmax168 เพื่อทราบข่าวสารดีๆมากมายที่นำมาอัพเดทให้ท่านได้อ่านกันในทุกอาทิตย์

          เรื่องสถิติการยิงประตูอาจจะไม่ค่อยประหลาดใจสักเท่าไหร่ แต่ยอดการแอสซิตส์นี่สิที่น่าตกใจเล็กน้อย ที่ยอดการแบ่งปันสร้าวสรรค์ประตูดูมากเป็นพิเศษ หากเทียบกับจำนวนการลงสนามเท่ากันกับฤดูกาลที่แล้ว เอาจริง ๆ หากดูในเกมต้องบอกว่า ยอดการแอสซิสต์ของเขาไม่แปลกเท่ากับ พฤติกรรมการเล่นของเขา ไม่ใช่ผลงานนะแต่เป็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เพราะหากย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงแรกที่เขาย้ายมาปารีสด้วยค่าตัวสถิติโลก

ก็ต้องยอมรับตรง ๆ ว่า เนย์มาร์ เหมือนเด็กสำคัญตัว ความมัวเมาในชื่อเสียง บารมีนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลกครอบงำทำให้พฤติกรรมในสนามเขาเหมือนเป็นมาเฟียลูกหนัง ทำตัวเป็นศูนย์กลางของทีม มีเรื่องราวฉาวสารพัด ไม่ว่าจะเป็น การไปแย่ง คาวานี่ ยิงจุดโทษ มีข่าวว่าเขาเป็นตัวตั้งตัวตีที่บีบบังคับให้ทีมบริหารปล่อยคาวานี่ออกจากทีม อ้างอาการบาดเจ็บ เพื่อกลับไปงานวันเกิดน้องสาวที่บ้านเกิดบ้าง หรือมาซ้อมด้วยสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมหลังจากการปาร์ตี้หนักบ้าง อะไรพวกนี้ เขาทำตัวเหมือนราชาเวลาลงสนามเขาต้องเด่น เขาต้องได้บอล เพื่อนเล่นผิดพลาดเขาจะมีสีหน้า เพื่อนไม่ส่งบอลให้เขาจะมีอาการทันที หรือพูดง่าย ๆ ว่าเขาเล่นเพื่อตัวเองมากเกินกว่าที่จะเล่นเพื่อทีมนั่นแหละ

           แต่ปีที่ผ่านมาไม่รู้ว่าทุกท่าสังเกตไหมว่า เหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ไม่มีนะคะ ทั้ง ๆ ที่ทุกปีจะต้องมีเรื่องฉาวของเนย์มารืจากสื่อต่าง ๆ เผยออกมาไม่ข่าใดก้ข่าวหนึ่ง ในวัย 30 ปีมันเหมือนเขากำลังคิดได้หรือเปล่าว่าตอนนี้เขาต้องโตขึ้น มีวุฒิภาวะมากขึ้น เพราะเขากลายเป็นซีเนียร์ของทีมไปแบบเต็มๆแล้วไม่เหมือนกับตอนที่อยู่บาร์ซ่า หรือตอนย้ายมาปารีสใหม่ ๆ วัยกำลังห้าว หรืออาจจะเป็นเพราะว่าพี่ชายที่เขาเคารพรักอย่างเมสซี่ ได้ย้ายเข้ามามันทำให้เขาได้รับพลัง หรือข้อคิดอะไรบางอย่างในการวางตัว เพื่อเป็นนักเตะรุ่นใหญ่ที่น่าเคารพจากเพื่อนร่วมทีม ร่วมถึงเพื่อนร่วมวงการ

หากเป็นสองเหตุผลว่ามาจริงๆ มันได้ส่งผลลัพธ์มายังผลงานการเล่นในสนามอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่บ้าเลี้ยง ไม่โชว์เดี่ยว ไม่ใส่สกิลแบบพร่ำเพื่อเขาเลือกจ่ายให้เพื่อนเล่นง่าย เช่นการงัดบอลขามกองหลังอย่างเหนือชั้นให้เอ็มปับเป้ เข้าไปยิง ยูเว่ ใน UCL นัดก่อน เขาไม่มีอาการหัวร้อนแบบเดิมให้เห็น เช่นในเกมยูเว่เหมือนกัน ที่เอ็มปับเป้ หลุดมาทางขวา มีเนย์มาร์วิ่งเติมมาโล่งๆ แต่ประธานเป้เลือกที่จะยิงออกไปเองไม่ยอมจ่ายให้เนย์มาร์ที่พร้อมยิงจ่อๆ ใส่สกอร์ได้เลยจังหวะนั่นถ้าเป็นเมื่อก่อน มีอาการหัวร้อนแน่นอน แต่เขาออกท่าทางนิดหน่อยและยิ้มแบบเข้าใจ เนี่ยแหละที่มันแปลก มันไม่ใช่เนย์มาร์คนเดิมถามว่ามันเป็นเรื่องที่ดีไหม มันเป็นเรื่องที่ดีไหม มันเป็นเรื่องที่ดี

            อย่างแรกเลย คือ ผลงานในสนามมันดีขึ้นมาก เอาแค่เกมบุกในแดนหน้า สามคน เอ็มปับเป้ เนย์มาร์ เมสซี่ ทุกคนต่างมีผลงานที่โหดมากในฤดูกาลนี้ และมันอาจจะเป็นการพิสูจน์แล้วว่าการพยายามเล่นเพื่อแบกทีม โดยที่ไม่จำเป็นในช่วงเวลาที่ผ่านมา มันไม่อาจทำให้เขากลายเป็นผู้ชนะใน UCL ได้อย่างแท้จริง ซึ่งมันเป็นรางวัลเดียวที่ปารีสกำลังไล่ล่า มันกลายเป็นว่าผู้คนเริ่มพูดถึงเขาในแง่ที่ดีขึ้นจากผลงานในสนามที่มันอาจจะต่อยอดไปถึงผลงานในฟุตบอลโลกที่จะมาถึงปลายปีนี้ที่เขาจะเป็นเหมือนผู้นำของบราซิลยุคใหม่ ในการชิงแชมป์ถ้วยเวิล์ดคัพซึ่งที่ผ่านมา

เรื่องฝีเท้าของเขาไม่มีใครสงสัย แต่บุคลิค นิสัย ของการเป็นผู้นำในทีมชาติยังมีคนตั้งคำถามอยู่มาก แม้แต่แฟนบอลชาวบราซิลเองก็ตามต่างสงสัยว่าเขาเหมาะสมหรือไม่ เหตุผลสุดท้าย หรือว่าสิ่งที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้อาจจะเป็นเพราะข่าวที่เขากำลังถูกเลหลังปารีสพร้อมปล่อยตัวแบบไม่ง้อ เพราะฝ่ายบริหารรู้สึกเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของเขาที่ผ่านมาและมีการต่อสัญญากับ เอ็มปับเป้ ด้วยค่าเหนื่อยที่แพงมหาศาลทำให้ต่ำแหน่งลูกรักของประธานสโมสร ไม่ได้เป็นเขาคนเดิมอีกแล้ว แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตามแต่ การได้เห็นเนย์มาร์เติบโตตามวัย มีความคิด จิตใจ และอารมณ์ที่ดีขึ้นและมีผลงานที่ดีขึ้นในสนาม มันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ที่นักฟุตบอลที่จะเป็นตำนานพึงมี เพราะนักฟุตบอลฝีเท้าดีจะถูกยกย่องว่าเป็นตำนาน เเต่นักฟุตบอลฝีเท้าดี และเป็นแบบอย่างที่ดีเขาจะถูกยกย่องว่าเป็นโคตรของตำนาน สุดท้าย หรือว่าที่เขาเปลี่ยนไปเพราะว่ามีท่านประธานสโมสรลงเล่นกับเขาในสนามด้วยหรือเปล่า เลยเกรงใจ และรู้สึกว่าเหมือนเห็นเงาตัวเองในกระจก เมื่อ 3-4 ปีที่แล้วก็เป็นได้