บอร์นมัธ กับผลงานไร้พ่ายในมือของกุนซือรักษาการ

            สวัสดีคอบอลทุกท่าน บทความนี้ vmax1689 จะมาพูดถึงทีมน้องใหม่ในซีซั่นนี้ อย่าง บอร์นมัธ กัน หลังจากที่ทีมพรัเมียร์ลีกเตะไป น้องใหม่แต่หน้าเก่าอย่าง บอร์นมัธ คือเต็งหนึ่งที่จะตกชั้น อันเนื่องมาจากผลงานสุดย่ำแย่แพ้ 3 นัดรวด เสียไป 16 ประตู แถมยังโดน ลิเวอร์พูล ระเบิดตาข่ายไปถึง  9 ลูก ในเกมเดียวอีกต่างหาก แต่ในวันนี้ใครจะไปเชื่อว่า บอร์นมัธ ทีมเดิมทีมนี้ จะสปริงตัวเองจากทีมบ๊วยขึ้นมาอยู่ในกลางตารางได้สำเร็จ โดยตัวนักเตะก็เป็นชุดเดิมทั้งหมด เปลี่ยนแปลงแค่ตัวกุนซือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แถมคนที่มาเป็น กุนซือคนเก่ายังไม่ได้รับการแต่งตั้งถาวรอีกด้วย และเรามาพูดถึงเรื่องนี้กันบอร์นมัธ เป็นสโมสรเก่าแก่สโมสรหนึ่งในวงการฟุตบอลอังกฤษ

            พวกเขาก่อตั้งมาตั้งแต่ปี1899 มีชื่อเล่นว่า เดอะ เชอร์รี่ส์ สนามเหย้าคือ คอร์ต หรือ วิลาลิตี้ สเตเตี๊ยม ซึ้งมีความจุประมาณ 11,000-12,000 ที่นั่งเท่านั้น บอร์นมัธ มีช่วงเวลาที่สุดยอดคือในยุคของ เอ็ดดี้ ฮาว ที่ใช้เวลา 6 ฤดูกาล พาทีมเลื่อนชั้นได้ถึง สามดิวิชั่น โดยพวกเขาขั้นมาอยู่ในลีกสูงสุดได้ตอนปี 2014 และยืนหยัดโลดแล่นได้นานถึง 4 ฤดูกาล  พวกเขาใช้เวลา 2 ปี ในการไต่ระดับกลับมาพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง โดยในฤดูกาลล่าสุด บอร์นมัธ ภายใต้การคุมทีมของ สกอตต์ ปาร์เกอร์จบด้วยตำแหน่งรองแชมป์ของลีกแชมเปี้ยนชิพ มีสถิติเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีกแค่ 39 ลูกจาก 44 นัด เมื่อกลับมาเล่นบนลีกสูงสุด ปาร์เกอร์ พาทีมออกสตาร์ทด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ แอสตัน วิลล่า ไป 2-0 ทว่าในอีก 3 นัด  

ต่อมากลับเป็นฝันร้าน เมื่อต้องดวลกับทีมท๊อปๆ ไล่ตั้งแต่ แมนเซตเตอร์ ซิตี้ อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล ส่งผลในพวกเขาต้านทานความดุดันของทีมเหล่า นี้ไม่ไหว แพ้รวดทั้ง 3 นัด เสียประตูรวมกัน 16 ลูก ก่อนที่จู่ๆบอร์ดบริหารของทีมจะตัดสินใจปลด สกอตต์ ปาร์คเกอร์ ออกจากตำแหน่งกุนซือทันที หลังแพ้หงส์แดงยับถึง 0-9 ซึ่งที่จริง หลายๆฝ่ายก็ไม่ค่อยเห็นด้วย ที่สโมสรรีบปลดเพราตอนนั้น การแพ้ คือ แพ้แต่ทีม ใหญ่ๆ แต่ว่ากันว่า มีความขัดแย้งเกิดขึ้น ด้วย ระหว่างตัวปาร์คเกอร์ กับ บอร์ดบริหารดดยบอร์นมัธ ยังไม่ได้แต่วตั้งกุนซือใหม่ขึ้นมาในทันที แต่พวกเขาเลือดที่จะดัน แกรี่ โอนีล มือขวาของ ปาร์คเกอร์ ให้ขึ้นมาเป็นกุนซือรักษาการชั่วคราวแทนไปก่อน เหตุผลหนึ่งก็คือ ในตอนนี้สโมสรกำลังมีข่าวว่ากำลังพูดคุยกับกลุ่มทุนจากอเมริกาในการขายสโมสร โดยเบื่องต้นมีการเคาะราคาอยู่ที่ราวๆ 150 ล้านปอนด์    

           จึงทำให้ยังไม่อยากแต่งตั้ง กุนซือใหม่เข้ามา เพราะต้องการขายสโมสรเสร็จสิ้นเสียก่อน อีกหนึ่งเหตุผลก็คือ ในช่วงเวลาดังกล่าวที่กำลังดีลเรื่องขายสโมสรอยู่นั้น ปรากฏว่า แกรี่ โอนิล กุนซือรักษาการดันทำหน้าที่ได้ดีมากๆ 6 นัดที่ โอนิล ยืนสั่งการข้างสนาม บอร์นมัธ ไม่แพ้ใครเลย ชนะ 2 เสมอ 4 คลีนซีต 2 นัด เก็บได้ 10 คะแนน กระโดขึ้นมารั้งอันดับ 9 ในตาราง คะแนนอย่างเซอร์ไพรส์

สำหรับ แกรี่ โอนิล เป็นอดีตนักฟุตบอลที่ไม่ได้โด่งดีงอะไรมากนักส่วนใหญ่เล่นในแชมเปี้ยนชีพสลับกับพรีเมียร์ลีกบ้าง เขาเคยค้าแข้งกับ ปอร์ทสมัธ มิดเดิ้ลสโบรห์ เวสตืแฮม คิวพีอาร์ นอริช บริสตอล ซิตี้ ก่อนจะเลือดแขวนสตั๊ดกับ โบลตันในปี 2019 หลังจากเลิกเล่นได้ไม่นาน โอนิลได้งานแรกคือการเข้ามาเป็นผู้ช่วยโค๊ชทีม ลิเวอร์พูล ชุดอายุต่ำกว่า 23 ปี ก่อนที่เขาจะขยับขยายไปเป็นมือขวา ของโจนาธาน วู้ดเกต ที่ บอร์นมัธ ตอนปี 2021 และก็ทำงานในตำแหน่งนี้เรื่อยมาจนถึงในยุคของ สกอตต์ ปาร์แกอร์ โอนิล คลุกคลีกับนักเตะชุดนี้มานานนับปี เขาเป็นคนที่นำทีมลงฝึกซ้อม และเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของทั้ง วู้ดเกต และ ปาร์เกอร์ มาโดยตลอด ดังนั้น เมื่อเขาขึ้นมารับหน้าที่เป็นกุนซือของทีมจึงแทบไม่ต้องปรับตัวอะไรใหม่เลย

เดินหน้าทุกอย่างได้ทันที บอร์นมัธ ของ โอนิล ไม่วับซ้อนเหมือนในยุค ปาร์เกอร์ ซึ่งมักจะใช้ระบบไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละนัด ทั้งระบบหลัง 3 และระบบหลัง 4 แต่โอนิล เลือกที่จะให้ลูกทีมเล่นในระบบ 4-2-3-1 เป็นระบบหลักระบบเดียว มียืดหยุ่นมาเป็น 4-4-2 กับ 4-3-3 บ้างยางนัด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแค่การเปลี่ยนตำแหน่งการยืนเพียงนิดหน่อยเท่านั้น ทำให้นักเตะม่สับสน และลงเล่นด้วยความเข้าใจในระบบมากขึ้น แดนกลางคือจุดที่โอนิล เจาโฟกัสมากเป็นพิเศษ เขาเลือกใช้ลูอิส คุ้ก กับ เจฟเฟอรืสัน เลอมา เป็นสองมิดฟิลด์ตัวกลางที่คอยตัดเกมก่อนหน้าแผงแบ็คโฟร์  โดย คุ้ก จะยืนต่ำกว่า ปักหลักเก็บกวาดบอล ส่วน เลอมา จะเป็นประเภท บ็อกซ์  ทู

          บ๊อกซ์ วิ่งขึ้นลงซัพพอร์ตทั้งรุกและรับ ผลงานของเลอมาคือยิงได้ 2 ประตูแล้ว ในฤดูกาลนี้ ทั้งที่ เล่นในตำแหน่งกองกลาง อีกหนึ่งจุดที่สำคัญมากๆ ก็คือการเปลี่ยนมาใช้ เนโต้เป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่ง แทนที่ของ มาร์ค เทรเวอร์ส ครับ เนโต่ย้ายจาก บาร์ซ่า มาอยู่กับ บอร์นมัธ ด้วย สัญญาระยะสั้น แค่ 12 เดือน ซึ่งดีกรีของเนโต้ ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลย เขาเคยเล่นให้ ฟีออเรนติน่า ยูเวนตุส บาเลนเซีย และล่าสุด คือ บาร์ซ่า ดังนั้นในเรื่องฝีไม้ลายมือไม่ต้องเป็นหว่ง แม้จะเป็นแค่มือสองของทีมใหญ่ แต่เขาก็ดีพอสำหรับการเป็นมือหนึ่งในทีมได้สบายๆเลย 

เนโต้ได้โอกาสจาก แกรี่ โอนิล ตั้งแต่เกมแรกที่ กุนซือ คนนี้คุมทีม เขาโชว์ฟอร์มได้ดีมากๆ ออกแรงเซฟสวยๆ ช่วยทีมไปแล้ว 20 ครั้งจาก 6นัดในลีก เก็บคลีนชีตได้ 2 นัด เกมเด่นๆ คือนัดที่พบนิวคาสเซิ่ล เขาเชฟกระจุย ถึง 6 ครั้ง อีกครั้งในตอนนี้ เนโต้ มีเปอร์เซ็นต์เซฟสูงเป็นอันดับ 3 ของลีก นั่นคือ 76.9% เป็นรองแค่ จอร์แดน พิคฟอร์ด กับ นิค โป๊ป แค่สองคนเท่านั้น เกมรับของโอนิล แน้นขึ้น เสียประตูยากขึ้น ทำให้ช่วยเก็บแต้มได้เยอะขึ้นและยังไม่แพ้ใครเลยมา 6 นัดติด

บทสรุปบทความบอร์นมัธ 

          อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญก็คือการเลือกวางหมากในเกมรุกที่ดี เขาเลือกโดนินิค โซลันกี้ เป็นตัวพักบอลในแดนหน้า โดยให้ ฟิลลิป บิลลิ่ง คอยทำเกมข้างหลัง สอดขึ้นไปทำประตู สองคนนี้มีสถิติที่ยอดเยี่ยมมากๆ ในเกมลีก โซลันกี้ ยิง 2 แอสซิลต์ 3 ส้วนทางด้าน บิลลิ่ง ยิง 3 แอสซิสต์ 1 ตอนนี้บอร์นมัธ กลายเป็นทีมน้องใหม่ที่ทำผลงานได้ดีสุดจากทั้งหมด 3 ทีม ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาเป็นทีมที่มีพัฒนาการเด่นชัด แล้วมีแนวโน้มสูงว่าอาจจะ อยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีกได้อีกด้วย

เครดิตเกินครึ่งยกให้ แกรี่ ดอนิล กุนซือรักษาการที่ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม ที่เหลือยึดของเดิมแต่ใส่รายละเอียดต่างๆเข้าไปจนทีมออกมาดีและลงตัว เกมรับของเขาค่อนข้างดี แดนกลางมีประสิทธิภาพพอที่จะต่อกรกับทีมหัวตาราง ได้แบบไม่ห่างชั้นมากนัก ถือว่าเป็นทีมที่น่าจับตามองและอาจจะเป็นตัวแสบของทีมใหญ่ๆ ก็เป็นได้

สมัครสมาชิกฟรี ติดต่อเจ้าหน้าที่ ติดตามข่าวสาร
ย้อนกลับ