จู๊ด เบลลิ่งแฮม 

จู๊ด เบลลิ่งแฮม ความหวังใหม่ในแดนกลางของสิงโตคำราม

           สวัสดีคอบอลทุกท่าน  วันนี้ vmax1689 พาทุกท่านย้อนไปฟุตบอลโลกในตำนานของจู๊ด เลลิ่งแฮม เรามาดูกันว่าเขาเป็นความหวังใหม่ของแดนสิงโตคำรามได้อย่างไร ย้อนกลับไปตอนฟุตบอลโลกปี 1998 ไมเคิล โอเว่น เคยทำประตูในบอลโลกครั้งนั้นได้ ด้วยวัยเพียง 18 ปี เขาคือด่วรุ่งที่อายุ ไม่ถึง 20 ปี คนแรกเลยที่ยิงให้กับอังกฤษได้ในฟุตบอลโลกผ่านมาจนถึงเมื่อคืนนี้ ในปี 2022 จู๊ด เบลลิ่งแฮม กลายเป็นดาวรุ่งคนที่สองเท่านั้น 

ที่ยังอายุไม่ถึง 20 ปี แต่สามารถยิงให้กับอังกฤษในฟุตบอลโลกได้ แถมประตูนี่ยังเป็นประตูแรกของเจ้าตัวกับทีมชาติอังกฤษอีกด้วย แต่สิ่งแตกต่างออกมา คือ เขาไม่ใช่กองหน้าด้วยซ้ำ แถมเจ้าตัวยังมีโปรไฟล์คือเป็นนักเตะเพียงคนเดียวในทีม ที่ค้าแข้งอยู่นอกประเทศอะไรๆก็ดูพิเศษไปหมด และนอกจากจะยิงได้ เมิ่อคืนนี้ เขายังถูกมองว่าทำผลงาน ได้โดดเด่นที่สุดคนหนึ่ง ในสนามอีกด้วย ฉะนั้น เราจะมาพูดถึงกองกลางคนนี้สักหน่อย จู๊ด เบลลิ่งแฮม เป็นผลผลิตจากคาเดมี่ ของ  เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ที่อยู่ในทีมเยาวชนมาตั้งแต่ 8 ขวบ

สมัครสมาชิกฟรี ติดต่อเจ้าหน้าที่ ติดตามข่าวสาร

      ก่อนที่เขาจะขยับเข้ามาเล่นชุดใหญ่ครั้งแรกด้วยวัยเพียง 16 ปี 38 วัน และก็ทำประตูแรกให้กับทีมได้ในเกมกับ สโต๊ด ซิตี้ ซึ่งในตอนนั้นเขาอายุแค่ 16 ปี 63 วัน ทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ยิงให้ เบอร์มิงแฮม ชุดใหญ่อีกด้วย เล่นให้ เบอร์มิงแฮม ได้แค่ ฤดูกาลเดียว เบลลิ่งแฮม ก็ถูก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนต์ ดึงตัวไปร่วมทัพในราคาราวๆ 25 ล้านปอนด์ ซึ่งทางตันสังกัดอย่าง เบอร์มิงแฮม ถึงกับรีไทร์เสื้อเบอร์ 22 ที่ เบลลิ่งแฮม ใส่กันเลยทีเดียว พร้อมให้เหตุผลว่าเด็กคนนี้คือผลผลิตจากอะคาเดมี่ที่ดีที่สุด การรีไทร์เบอร์เสื้อนี้ เพื่อระลึกถึงและเป็นแรงบันดาลใจให้กักคนรุ่นหลังต่อไป จู๊ด ย้ายมาเล่นในบุนเดสลีกาตอนปี 2020 ซึ่งในเวลานั้นเขาเพิ่งจะอายุ 17 ต้น ๆ เท่านั้น ที่น่าทึ่งก็คือเขาแทบไม่ต้องปรับตัวอะไรเลยสักนิด

เขาสอดแทรกในทีมตัวจริง ได้แบบแนบสนิท ลงสนามปีแรกไป 46 นัด ยิงไป 4 ประตูจากทุกรายการ แล้วได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ ยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล อีกทั้งยังมีชื่อเข้าชิงรางวัล โกปา โทรฟี่ ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้นักเตะอายุต่ำกว่า 21 ปี ที่เด่นที่สุดในปีนั้น ๆ  แม้ว่าเขาจะแพ้โหวตให้กับ เปดรี่ ของสเปนไปก็จริง แต่ เบลลิ่งแฮม ก็ได้รับการโหวตให้อยู่ในอันดับ 2 เลยทีเดียว สำหรับ สไตล์การเล่นของ เบลลิ่งแฮม ถูกมองว่ามีความคล้าย สตีเว่น เจอร์ราร์ด เพราะเขาเด่นทั้งบุ๋นและบู๊ เป็นกองกลางที่เชื่อม เกม ไปกับบอลได้ดี มีเทคนิคความสามารถเฉพาะตัวสูง ร่างกายแข็งแกร่ง รวมถึงมีทัศนคติการเล่นที่โตเกินวัย ตำแหน่งการยืนของเขา ที่ถนัดที่สุดจะดูเหมิอนเป็นกองกลางด้านขวา

ไม่ว่าจะยืนในระบบกลางคู่แบบ 4-2-3-1 หรือจะเป็นในระบบ กลาง 3 ตัวอย่าง 4-3-3 ก็ตาม เขาเล่นบทบาท บ๊อกซ์ ทู บ๊อกซ์ ในทีม ดอร์ทมุนต์ เสีบเป็นส่วนใหญ่ คอยขับเคลิอนเกมตรงกลางสนาม เอาแค่ผลงานในฤดูกาลนี้ เขาเล่น ใน บุนเดสลีกา 15 นัด ยิง 3 แอสซิสต์ 2 จ่ายบอลสำเร็จ 642 ครั้ง และก็สร้างโอกาสให้ทีม ไป 15 ครั้ง ส่วนในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลึก ยิ่งแล้วใหญ่ เขาระเบิดฟอร์ม ซัดได้มากถึง 4 ประตู 1 แอสซิสต์จาก 5 นัด แถมยังจ่ายบอลสำเร็จอีก 205 ครั้ง

      และตัดบอลแย่งบอลคืนกลับมาได้อีก 10 ครั้ง ด้วยกัน เป๊ป กวารืดิโอล่า ที่เจอกับ ดอร์ทมุนต์ ในฤดูกาลนี้พูดถึง เบลลิ่งแฮม ว่า สำหรับเด็กคนนี้ มันไม่ใช่แค่เรื่องคุณภาพฝีเท้าเท่านั้น แต่เขายังมีความเป็นผู้นำ เขาพร้อมที่จะเข้าหาผู้ตัดสินหรือกระตุ้นทีม เขามีบางสิ่งบางอย่างที่พิเศษมาก ๆ แถมมีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งด้วย ตอนนี้เขาเป็นหนึ่งในกัปตันทีมของ ดอร์ทมุนต์ เขาค่อนข้างครบเครื่อง แต่ก็เป็นตัวหลักของทีมชาติอังกฤษ ตั้งแต่ อายุ แค่ 19 ปี นั่นคือหลักฐานว่าเขามีพรสวรรค์มากเพียงใด

เขาเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่กล้าเล่น แบบกล้าได้กล้าเสีย สถิติที่เกิดขึ้น เรื่องการส่งบอล แม่นยำ ไม่ได้มาจากการส่งสั้น ๆ 5 หลา แต่หลายๆ ครั้งคือการส่งแบบคิลเลอร์พาส หรือ เปลี่ยนแกนข้ามฝั่ง ที่ทำได้ดีมากอีกด้วย อย่างในฤดูกาลนี้ เขาแท็คเกิ้ลชนะคู่แข่งมากถึง 26 ครั้งในลีก มี เปอร์เซ็นต์สูงถึง 54 % อีกทั้งยังกล้าพาบอลลุยไปข้างหน้า โดยมีตัวเลขเลี้ยงบอลชนะตัวประกบสูงถึง 30 ครั้ง คิดเป็น เปอร์เซ็นคือ 60 % เลยทีเดียว ผลงานในสโมสรนับว่า โดดเด่นแล้ว แต่กับในทีมชาติ

เขายิ่งเป็นประกายมากกว่าอีกนะครับ เขาติดทีมชาติอังกฤษมาแทบจะครบทุกชุด ตั้งแต่ ยู-15 ยู-16 ยู-17 และยู-21 ก่อนที่เขาจะถูกดันขึ้นชุดใหญ่ตอนอายุ 17 ทำสถิติเป็นนัดเตะที่อายุน้อยที่สุด อันดับ 3 ที่ลงเล่นให้อังกฤษ เขาได้ชิมลางในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรกคือในยูโร 2020 โดยลงเล่นไปทั้งหมด 3 นัด นับเป็นจำนวนนาที คือ 55 นาที มีเปอร์เซ็นต์จ่ายบอลสำเร็จ 91 % ก่อนจะได้เล่นบอลโลกรอบคัดเลือกอีก 4 นัด และในยูฟ่า เนชั่นส์ ลึก อีก 5 นัด ซึ่งทั้งสองรายการหลังนี้เขาได้ออกสตาร์ตตัวจริงรวมกันถึง 6 นัด เลยทีเดียว เบลลิ่งแฮม เล่นได้ดีจนเป็นหนางในนักเตะที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ต้องพามาฟุตบอลโลกที่กาตาร์นี้ด้วย ก่อนที่จะได้ประเดิมสนามแรกลงตัวจริงทันที

นัดที่เจอกับ อิหร่าน เขาพาทีมถล่มไปถึง6-2 ซึ่งตัวเขาเองก็ประเดิมสกอร์แรกในเสื้อทีมชาติได้เสียทีหลังจากลงเล่นมาแล้ว 18 นัด ส่งผลให้ จู๊ด กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของอังกฤษ อันดับสอง ที่ทำประตูได้ในฟุตบอลโลกด้วยวัย 19 ปี 145 วันเป็นรองแค่ ไมเคิล โอแว่น ในวัย 18 ปี 190 วัน เมือปี 1998 เพียงคนเดียวเท่านั้น การทำประตูแรกให้อังกฤษได้คือ เรื่องดีอยู่แล้ว แต่นี้คือการเกิดขึ้นในเกมฟุตบอลโลกอีก

จึงเป็นเรื่องที่น่าประทับใจ ไม่ว่าคู่แข่งจะเป็นใครก็ตาม ผลเคยพุดเสมอว่าปีนี้ผมอยากทำประตูให้ ดอร์มุนต์และทีมชาติอังกฤษมากขึ้น ผมพยายามมาตลอด ลูกที่ทำได้ต้องชมบอลที่ยอดเยี่ยมจาก ลุค ซอว์ ซึ่งผมก็แค่อยู่ตรงนั้นเพื่อสะกิดบอลให้เข้าประตูไป ฟอร์มของ จู๊ด ในตอนนี้น่าจับตามอง ๆ ครับ ยิ่งเป็นในทัวร์นาเมนต์ใหย่อย่างฟุตบอลโลกด้วยแล้ว หากว่าเขาเล่นได้ดีแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ดูท่าว่า ดอร์มุนต์ คงจะรั้งเขาไว้ได้อีกไม่นาน และดูแล้ว โอกาสเป็นไปได้สูงมาก ๆ ที่นักเตะคนนี้ น่าจะเป็นนักเตะที่มีค่าตัวระดับร้อยล้านคนต่อไปของวงการ ที่จริง แฟน ๆ กังวลว่าจะแพงกว่านั้นอีกด้วยซ้ำ ถ้าชอบก็อย่าลืมกดไลค์ ให้พวกเราด้วย

สมัครสมาชิกฟรี ติดต่อเจ้าหน้าที่ ติดตามข่าวสาร
ย้อนกลับ